กรมการจัดหางาน เผยความคืบหน้า พนักงานสอบสวนออกหมายจับ เอเย่นแสบหลอกทำงานญี่ปุ่นแล้ว
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานรับข้อสั่งการนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ตรวจสอบ ติดตาม ดำเนินคดีเอาผิดสาย-นายหน้าเถื่อนที่หลอกลวงคนไทยไปทำงานประเทศญี่ปุ่น
โดยเร็วซึ่งหลังการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ทางทะเบียนระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ พบว่า สาย-นายหน้ารายดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ และไม่ได้จดทะเบียนเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางานของผู้รับอนุญาต ซึ่งมีความผิด ตามมาตรา 91 ตรี ข้อหา “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 – 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงแจ้งต่อสถานีตำรวจภูธรบ้านดุงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ล่าสุดพ.ต.ท.อิศเรศ ประสมพืช เจ้าของคดี ได้ออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว
นายไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมการจัดหางาน ตรวจสอบ เฝ้าระวัง และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการหลอกลวงคนหางานในทุกช่องทางมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีคนไทยถูกหลอกลวงเรื่อยมา โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีการดำเนินคดีสาย/นายหน้าเถื่อนแล้ว 124 ราย พบการหลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 419 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 29,003,161 บาท จึงขอย้ำเตือนอีกครั้งสำหรับผู้ที่สนใจเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ขอให้ไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมี 5 วิธี ได้แก่ บริษัทจัดหางานจัดส่ง กรมการจัดหางานจัดส่ง เดินทางไปทำงานด้วยตนเอง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงาน และนายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงาน และหากต้องการใช้บริการบริษัทจัดหางาน ขอให้ตรวจสอบรายชื่อบริษัทฯกับกรมการจัดหางานก่อน โดยปัจจุบันมีบริษัทจัดหางานให้คนไปทำงานในต่างประเทศ ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายให้เลือกใช้บริการถึง 134 แห่ง ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการหลอกลวงผ่านระบบ e – Service กรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือที่ Facebook : ศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
แหล่งที่มา: ข่าวกระทรวงด้านความมั่นคง