ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำข้าราชการมหาดไทย วางพานพุ่มดอกไม้ เนื่องในวันระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พร้อมเน้นย้ำ


06/04/2566

พิมพ์

 


ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำข้าราชการมหาดไทย วางพานพุ่มดอกไม้ เนื่องในวันระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พร้อมเน้นย้ำ

ปลัด มท. นำข้าราชการมหาดไทย วางพานพุ่มดอกไม้ เนื่องในวันระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พร้อมเน้นย้ำ “ร่วมกันเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์ที่มีอย่างอเนกอนันต์ให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง และความเป็นเอกราชของชาติไทยอย่างยั่งยืน”

วันนี้ (6 เมษายน 2566) เวลา​ 08.00 น.​ ที่พระปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า กรุงเทพฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ประกอบด้วย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชูชีพ พงษ์ไชย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2566

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันจักรี หรือ Chakri Memorial Day ตรงกับวันที่ 6 เมษายนของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และมหาจักรีบรมราชวงศ์ อันเนื่องมาจากวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษกเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีและทรงสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวง ซึ่งช่วงเวลาตั้งแต่ก่อตั้งกรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ. 2325 เรียกกันว่า สมัยรัตนโกสินทร์ เช่นเดียวกันกับที่เคยเรียกยุคสมัยที่ผ่านมาในสยาม โดยพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์นี้ได้สืบสันตติวงศ์ต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน 10 รัชกาล รวมระยะเวลากว่า 241 ปี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงมหาดไทย น้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพี่น้องประชาชนชาวไทย และทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด ดังเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 241 ปี พระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความผาสุกและความอยู่ดีกินดีของประชาชน การปกครองประเทศด้วยทศพิธราชธรรม และนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยก่อการร้าย ภัยพิบัติ และภัยที่เกิดจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในประเทศ ทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และดูแลปกป้องประชาชนด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระมหากรุณาอย่างมิอาจประมาณได้ ประชาชนทุกหมู่เหล่าล้วนแต่เคารพรักและเทิดทูนสถาบันมหาพระกษัตริย์โดยแท้จริง พวกเราในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในการเผยแพร่พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงมีคุณูปการให้กับประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์มหาศาล ยังผลให้เกิดความเจริญงอกงาม ความเป็นเอกราช และความรุ่งเรืองของประเทศชาติมาจวบจนถึงทุกวันนี้ ด้วยการสร้างองค์ความรู้ เผยแพร่ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็ก เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา เพื่อร่วมกันรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์

“กระทรวงมหาดไทยร่วมกับสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้จัดทำสารคดีเฉลิมพระเกียรติราชวงศ์จักรีในรูปแบบ Boxset (โรงเรียนจิตอาสาพระราชทานเป็นผู้ดำเนินการผลิตสารคดี) ประกอบด้วย วิดีทัศน์สารคดีเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 1 – 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และนายอำเภอทุกอำเภอ รวม 954 ชุด เพื่อรำลึกและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ที่ยังคงสถิตในดวงใจของพสกนิกรตราบชั่วกาลนาน โดยได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ได้นำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้บุคลากรในสังกัดขยายผลไปสู่พี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ในหมู่บ้าน/ชุมชน ผ่านส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา องค์กรศาสนา หน่วยงานภาคเอกชน สมาคม ชมรม และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ด้วยสื่อในความรับผิดชอบ ทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และหอกระจายข่าว เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ซึ่งเป็นวันจักรี เป็นวันที่มีความสำคัญของการหล่อหลอมความเป็นปึกแผ่นของชาติไทย โดยมีองค์พระมหากษัตริย์ คือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงเป็นผู้รวบรวม ความรักชาติ ความสมัครสมานสามัคคี ยังผลทำให้เกิดความเป็นชาติไทย ความมั่นคงของประเทศ และความเป็นเอกราช สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเนื้อหาพระมหากรุณาธิคุณนั้นปรากฏอยู่ในสารคดีฯ ตอนที่ 10) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) จำนวน 25 ตอน” ปลัด มท. กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเนื้อหาในสารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ นี้ ประกอบด้วย 1) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) จำนวน 17 ตอน 2) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) จำนวน 62 ตอน 3) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) จำนวน 10 ตอน 4) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) จำนวน 9 ตอน 5) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) จำนวน 10 ตอน 6) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) จำนวน 21 ตอน 7) สารคดีพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) จำนวน 13 ตอน 8) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) จำนวน 12 ตอน 9) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) จำนวน 20 ตอน 10) สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) จำนวน 25 ตอน

ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาทุกแห่ง และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ร่วมเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ โดยเผยแพร่สารคดีเฉลิมพระเกียรติในทุกวันสำคัญของชาติ ตลอดจนงานราชพิธี และงานพิธีในโอกาสต่าง ๆ และสามารถสืบค้นข้อมูลวีดิทัศน์ชุดสารคดีเฉลิมพระเกียรติราชวงศ์จักรีได้ที่เว็บไชต์สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย https://moi.go.th/moi/สารคดีเฉลิมพระเกียรติ-2/ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่พระเกียรติคุณให้ขจรขจายขยายผลไปสู่พวกเราปวงพสกนิกรชาวไทยที่มีความจงรักภักดีเพื่อความมั่นคง ความเป็นเอกราชของชาติไทยอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย
http://https://moi.go.th/moi/สารคดีเฉลิมพระเกียรติ-2/

 

แหล่งที่มา: ข่าวกระทรวงด้านความมั่นคง

Leave a Comment