บริษัทยางพาราในประเทศเวียดนาม Huy Anh Rubber มอบหมายให้ KOLTIVA ดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปฏิบัติตามข้อกำหนด EUDR และเพื่อเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันในตลาดสหภาพยุโรป

17 กันยายน 2567 ณ
เมือง
โฮจิมินห์  บริษัทชั้นนำด้านยางพาราของเวียดนาม Huy Anh Rubber  ได้ก้าวสู่ความยั่งยืนครั้งสำคัญโดยการร่วมมือกับ KOLTIVA บริษัทชั้นนำด้านการเกษตรที่เกี่ยวกับความยั่งยืนและการตรวจสอบย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อกำหนดสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR) ซึ่งเป็นข้อบังคับสำคัญที่ยกระดับการปฏิบัติที่ยั่งยืน โดยกำหนดให้การผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ EUDR ต้องไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า เวียดนามยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยางพาราโลก ข้อกำหนด EUDR สร้างแรงบันดาลใจให้บริษัทต่าง ๆ เช่น Huy Anh Rubber ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

การผลิตน้ำยางพาราในเวียดนามเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี
2504 เนื่องจากมีสวนยางพาราขนาดใหญ่ ้ส่งผลให้เวียดนามเป็นผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่อันดับสามของโลก คิดเป็นประมาณ 8.7 % ของการผลิตยางทั่วโลก (The Investor Vietnam, 2023) ในปี
2564 การผลิตยางพาราของเวียดนามสูงถึง 1.3  ล้านเมตริกตัน โดยอุตสาหกรรมล้อยางใช้ยางถึง 70% ของในการผลิต (Statista, 2024) ยางพาราของเวียดนามไม่เพียงแต่เป็นส่วนสำคัญในการผลิตล้อยางเท่านั้น
แต่ยังถูกใช้ในหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่ชิ้นส่วนยานยนต์ไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ด้วยการผลิตจำนวนมาก ภาคธุรกิจยางพาราในเวียดนามมุ่งมั่นที่เข้าถึงตลาดสหภาพยุโรปด้วยการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EUDR เพื่อกระตุ้นให้ธุรกิจอื่น ๆ ปฎิบัติตาม


Huy Anh Rubber ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเถื่อเทียนเว้ ประเทศเวียดนาม โดยมีโรงงานแปรรูปสองแห่งในเวียดนาม และในประเทศลาว ซึ่งผลิตผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติคุณภาพสูง เช่น SVR10/TSR10 TSR20 RSS3 SVR3L SVRCV60 ยางมาสติก และยางผสม ด้วยความต้องการผลิตภัณฑ์ยางที่ยั่งยืนเพิ่มขึ้น Huy Anh จึงขยายพื้นที่เพาะปลูกอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 3,000 เฮกตาร์ในปี 2567 เป็น 15,000 เฮกตาร์ในปี 2568 เนื่องจากเป็นการเพาะปลูกขนาดเล็กที่กระจัดกระจาย จึงมีความสำคัญที่ Huy Anh ต้องพัฒนาห่วงโซ่อุปทานที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างครอบคลุม โดยเชื่อมโยงโรงงาน ซัพพลายเออร์ และเกษตรกรรายย่อยเข้าด้วยกัน

ในก้าวสำคัญนี้ Huy Anh ได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจาก KOLTIVA เพื่อให้บรรลุการปฏิบัติตามข้อกำหนด EUDR ในการติดตามห่วงโซ่อุปทานและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EUDR ที่ทาง KOLTIVA ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยบริษัทต่างรับมือกับความซับซ้อนของข้อกำหนด
 ในความร่วมมือนี้ Huy Anh มีเป้าหมายที่จะเพิ่มความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ไม่เพียงแต่ยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังปลอดการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำคัญของ EUDR

Le Thi Hong Mai รองผู้อำนวยการของ Huy Anh Rubber  ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือครั้งนี้ว่า “ความร่วมมือกับ KOLTIVA ครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเดินทางสู่ความยั่งยืน
EUDR เป็นมาตรฐานระดับสูงในด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และความเชี่ยวชาญของ KOLTIVA เรามั่นใจว่าเราสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Huy Anh ในตลาดโลกเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ”

แพลตฟอร์ม KoltiTrace MIS ที่พัฒนาโดย KOLTIVA จะมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอแผนที่ห่วงโซ่อุปทานและความสามารถในการประเมินความเสี่ยงที่ครอบคลุม เพื่อให้มั่นใจว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างสมบูรณ์ ช่วยให้การบันทึกความเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานของ Huy Anh เป็นเรื่องง่ายขึ้น


ส่วนหนึ่งของการในการเก็บข้อมูลเกษตรกรรายย่อยและพื้นที่แปลง KOLTIVA จะทำการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ภาคสนามของ Huy Anh ผู้ซึ่งทำงานอย่างใกล้ชิดกับโรงงานแปรรูปและซัพพลายเออร์ เพื่อทำแผนที่แปลงแก่เกษตรกรรายย่อยประมาณ 10,000 รายภายในห่วงโซ่อุปทานของโรงงานแปรรูปโดยใช้แอปพลิเคชัน KoltiTrace MIS เจ้าหน้าที่ภาคสนามเหล่านี้จะดำเนินการประเมินความเสี่ยงอย่างครอบคลุมสำหรับผู้ผลิตแต่ละราย เพื่อให้มั่นใจว่ามีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องภายในภูมิทัศน์การเกษตรผ่านแอปพลิเคชันนี้ KoltiTrace MIS ซึ่งรองรับการตรวจสอบย้อนกลับข้อมูลการทำธุรกรรมจากฟาร์มไปยังโรงงานแปรรูป เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้จะสามารถทำซ้ำได้พร้อมรายละเอียดข้อมูลต้นทาง
ที่รวมถึงการรวบรวมข้อมูลการเกษตรร โปรไฟล์ของผู้ผลิต และการทำธุรกรรมที่ถูกตรวจสอบแล้ว

KoltiTrace MIS ยังมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบการตัดไม้ทำลายป่าและความถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการตรวจสอบการตัดไม้ทำลายป่าอัตโนมัติผ่านข้อมูลดาวเทียม Sentinel ที่อัปเดตทุกปีและแผนที่พื้นที่คุ้มครองในท้องถิ่น เพื่อประเมินการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ผลิต เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ EUDR KoltiTrace MIS อำนวยความสะดวกในการตรวจสอบสถานะโดยอัตโนมัติ รวมถึงรูปแบบทางภมิูศาสตร์ในรูปแบบ GeoJSON และการประเมินความเสี่ยง ทำให้ Huy Anh สามารถให้ข้อมูลที่ผู้ซื้อต้องการได้ง่ายขึ้น

Manfred Borer ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ KOLTIVA เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกับ Huy Anh โดยกล่าวว่า “ข้อกำหนดด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรปเป็นก้าวสำคัญสู่ความยั่งยืนระดับโลก เราช่วยเหลือ Huy Anh ซึ่งเป็นลูกค้าในเวียดนามในการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาปฏิบัติตามข้อกำหนดEUDR อย่างเข้มงวดของด้วยแพลตฟอร์ม KoltiTrace MIS ของเรา เรานำเสนอการทำแผนที่ห่วงโซ่อุปทาน การประเมินความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ และการตรวจสอบการตัดไม้ทำลายป่า ทีช่วยให้สามารถติดตามได้อย่างแม่นยำตั้งแต่ฟาร์มไปยังโรรรงงานแปรรูป เพิ่มความโปร่งใส และสนับสนุนความมุ่งมั่นของ Huy Anh ต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการปฏิบัติอย่างยั่งยืน”

ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 Huy Anh จะเริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ยางที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR) เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าในสหภาพยุโรปจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมสูงสุด
ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด เปิดโอกาสใหม่ๆและมีความสามารถทางการตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากในตลาดสหภาพยุโรปที่ผู้บริโภคและธุรกิจให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น

Huy Anh มีความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืนและการสนับสนุนจาก KOLTIVA จะทำให้บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยางพาราเวียดนามขยายบทบาทในตลาดยางพาราโลกอย่างต่อเนื่อง และความร่วมมือเช่นนี้จะมีความสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น.

Provided by Veritimes

Leave a Comment