ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย ยังเฝ้าระวัง “โควิด” ต่อเนื่อง ผ่าน 4 ระบบ ยังไม่พบสายพันธุ์ที่น่ากังวล เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยไม่ได้บังคับแต่ให้พิจารณาตามความเหมาะสม ขอความร่วมมือประชาชนให้มารับวัคซีนต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม 608
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย ยังเฝ้าระวัง “โควิด” ต่อเนื่อง ผ่าน 4 ระบบ ยังไม่พบสายพันธุ์ที่น่ากังวล เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยไม่ได้บังคับแต่ให้พิจารณาตามความเหมาะสม ขอความร่วมมือประชาชนให้มารับวัคซีนต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ส่วนกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี เตรียมความพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนแล้ว
วันนี้ (10 ตุลาคม 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด 19 ว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาล และผู้ป่วยอาการหนักมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ผู้เสียชีวิตลดลงเช่นกัน จากเฉลี่ย 10 รายต่อวันเหลือ 8 รายต่อวัน ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และแม้จะปรับมาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง แต่ยังมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องใน 4 ระบบ ได้แก่ ระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล, ระบบเฝ้าระวังการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน, ระบบเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงหรือกลุ่มเสี่ยง และระบบเฝ้าระวังสายพันธุ์ ซึ่งยังไม่พบสัญญาณของสายพันธุ์ที่จะมีการระบาดรวดเร็ว หลบภูมิคุ้มกัน หรือมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการป้องกันตัวของประชาชน พบว่า มีการสวมหน้ากากอนามัยลดลง แต่ยังมีการสวมในที่ชุมชนอยู่ ซึ่งขณะนี้ไม่ได้บังคับเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย ขอให้พิจารณาตามความเหมาะสม
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า การฉีดวัคซีนโควิด 19 ยังต้องรณรงค์ต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง รวมถึงเข็มกระตุ้นที่มีความจำเป็น โดยจะเร่งรัดการฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 2 ล้านโดสภายในปลายปีนี้ เน้นกลุ่ม 608 เป็นหลัก แต่ภาพรวมประชาชนทั่วไปยังควรต้องฉีดเช่นกัน สำหรับวันที่ 12 ตุลาคมนี้ จะมีการคิกออฟฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดงเข้มในกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมแล้ว โดยวัคซีนอยู่ระหว่างการกระจายลงพื้นที่ มีการอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจเรื่องการฉีดและการเก็บรักษา จึงขอเชิญชวนผู้ปกครองนำบุตรหลานไปฉีดวัคซีนได้ตามความสมัครใจ หากเป็นเด็กที่มีโรคประจำตัวจะมีแพทย์ให้คำแนะนำ
ที่มา: ข่าวกระทรวง – ด้านสังคม (10 ตุลาคม 2565)