จังหวัดร้อยเอ็ด จัดกิจกรรม ”แม่บ้านมหาดไทย ร่วมใจใส่ผ้าไทยได้ทุกวัยและทุกวัน” ภายใต้แนวคิด “สวมใส่ผ้าไทยให้สนุก”
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และ นางดนิตา สมจิตต์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร้อยเอ็ด จัดกิจกรรม “แม่บ้านมหาดไทย ร่วมใจใส่ผ้าไทยได้ทุกวัยและทุกวัน” ภายใต้แนวคิด “สวมใส่ผ้าไทยให้สนุก” โดยจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร้อยเอ็ด และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด จัดถ่ายแบบชุดผ้าไทย ประกอบด้วย ผ้าสาเกต ซึ่งเป็นลายอัตลักษณ์ของจังหวัดร้อยเอ็ด และ ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณวรีฯ โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทย และเยาวชน เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 40 คน
นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ราชกัญญา มีพระราชประสงค์สืบสาน รักษาและต่อยอดพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านภูมิปัญญาผ้าไทย โดย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รณรงค์ให้ทุกจังหวัดขับเคลื่อนโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดกิจกรรม “แม่บ้านมหาดไทย ร่วมใจใส่ผ้าไทยได้ทุกวัยและทุกวัน” ภายใต้แนวคิด “สวมใส่ผ้าไทยให้สนุก” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าไทย ทำให้ผ้าไทยคงอยู่คู่แผ่นดิน และสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP และกลุ่มผู้ผลิตผ้าไทย ในจังหวัดร้อยเอ็ด
นางดนิตา สมจิตต์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดกิจกรรม “แม่บ้านมหาดไทย ร่วมใจใส่ผ้าไทยได้ทุกวัยและทุกวัน” ภายใต้แนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ราชกัญญา ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ ที่จะช่วยปลุกกระเเสการสวมใส่ผ้าไทยให้มากขึ้น จากเดิมกลุ่มคนที่สวมใส่ผ้าไทยจะเป็นผู้สูงวัยหรือใช้ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เปลี่ยนมาเป็นประชาชนทุกกลุ่มทุกวัยสามารถสวมใส่ผ้าไทยได้ทุกโอกาส ทำให้เกิดฐานผู้บริโภคขยายใหญ่ขึ้น เกิดการกระจายรายได้กลับสู่ชุมชนมากขึ้น กล่าวคือ ผ้าฝ้าย เมตรละ 300 บาท 1 คน 1 ชุดใช้ 2 เมตร ตกคนละ 600 บาท ประชาชนในจังหวัดร้อยเอ็ด มีประมาณ 1.2 ล้านคน ถ้า 1 ล้านคนมีชุดผ้าไทยคนละหนึ่งชุด จะทำให้เกิดการบริโภค จำนวน 600 ล้านบาท ซึ่งหากเราบริโภคมากขึ้น เพิ่มโอกาสสวมใส่ผ้าไทยให้มากขึ้น ไม่เพียงแต่จะเป็นการคืนเงินจำนวนมหาศาลสู่ชุมชน แต่ยังเป็นการสนับสนุนสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นอันทรงคุณค่าให้อยู่คู่ชุมชนไปอีกนานเท่านาน
“หัวใจหลักของการที่ทำให้ผ้าไทยน่าสวมใส่และสามารถใช้ได้ทุกวัย คือ การออกแบบตัดเย็บให้มีความทันสมัย และเหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย ซึ่งวันนี้ภาคีเครือข่ายของเราได้นำผ้าไทยไปตัดเย็บในแบบฉบับของตนเองให้เหมาะสมกับบุคลิกและช่วงวัยของแต่ละท่าน ซึ่งจะสวยงามน่าสนใจแค่ไหนเชิญทุกท่านรับชมได้เลยค่ะ อย่าลืมนะคะ สวมใส่ผ้าไทยต่อลมหายใจให้ชุมชน เพราะผ้าไทยใส่ได้ทุกวัย ใส่ได้ทุกวันค่ะ” นางดนิตา สมจิตต์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าว
นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวทิ้งท้ายว่า กิจกรรมนี้ ถือเป็นการช่วยโปรโมท และประชาสัมพันธ์ ช่วยกระตุ้นและสร้างกระแสการรณรงค์ให้ทุกวัยสวมใส่ผ้าไทย นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายผ้าไทยของกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนอย่างยั่งยืน พร้อมกับสร้างคุณค่าและอัตลักษณ์ของพี่น้องชาวร้อยเอ็ดให้อยู่คู่กับเยาวชนเกิดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษชาวจังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย
ที่มา: ข่าวกระทรวง- ด้านความมั่นคง