เจาะลึกเบื้องหลังการเติบโตของภาพยนตร์จากเอเชียแปซิฟิก : เหล่าผู้สร้างคิดอย่างไรกับ Netflix – ตัก

Netflix เชิญเหล่าผู้สร้างระดับแนวหน้ามาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับกระแสนิยมภาพยนตร์จากเอเชียแปซิฟิกที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงปัจจัยที่ทำให้เรื่องราวเหล่านั้นเป็นที่สนใจ

มินยองคิม รองประธานฝ่ายคอนเทนต์ (ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นประเทศอินเดีย) ผู้จัดงาน APAC Film Showcase ครั้งแรกที่กรุงโซลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประกาศให้ปี 2022 เป็น “ปีที่ดีที่สุด” ของภาพยนตร์จากเอเชียแปซิฟิก ซึ่งติดอันดับภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศทั่วโลกที่มียอดการรับชมสูงสุดตลอดแทบทุกสัปดาห์ในปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์จากภูมิภาคนี้กว่า 80 เรื่องติดโผ 10 อันดับสูงสุดในหมวดภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศทั่วโลกประจำสัปดาห์ของ Netflix ในปี 2022 โดยมีผลงานจากอินเดีย อินโดนีเซีย และเกาหลีที่ขึ้นครองอันดับ 1

งานนี้ได้จัดขึ้นก่อนการฉายภาพยนตร์แอ็คชั่นจากเกาหลีที่ทุกคนตั้งตารออย่าง คิลบกซุน (Kill Boksoon) ซึ่งมีกำหนดสตรีมวันที่ 31 มีนาคมเฉพาะทาง Netflix พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้บรรดาสื่อมวลชนและคนในวงการบันเทิงจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ร่วมเสวนาและพูดคุยกับ Netflix และเหล่าผู้สร้างเกี่ยวกับการรังสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาโลดแล่นสู่หน้าจอ

(ภาพจากซ้าย) ฉัตรชัย อาสนจินดา ยูทูบเบอร์ผู้ดำเนินรายการสนทนากับผู้กำกับทิโม จาจันโต และสิทธิศิริ มงคลศิริเรื่องการสร้างภาพยนตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เรื่องราวในท้องถิ่นซึ่งมีธีมเรื่องที่เป็นสากล

วินเซนต์ คิมแทวอน ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์จาก Netflix เกาหลี กล่าวว่าเวลาจะลงทุนกับเรื่องใดสักเรื่องหนึ่ง Netflix จะให้ความสำคัญกับเรื่องราวเป็นหลัก โดยพิจารณาว่าเรื่องนั้นจะสร้างความบันเทิงและความสุขให้กับผู้ชมได้หรือไม่

โดยการบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้น เน้นการเล่าที่ตรงและสมจริงสำหรับผู้ชมในประเทศนั้นๆ ด้วยการสอดแทรกประเด็นและภาษาพูดในท้องถิ่น นอกจากนี้ รุจิกา กาปูร์ เชคห์ ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์จาก Netflix อินเดีย กล่าวว่านี่คือหัวใจสำคัญของการบอกเล่าเรื่องราวในอินเดีย ซึ่งมียอดการรับชมภาพยนตร์ทาง Netflix สูงสุดทั่วโลก

เธอกล่าวเสริมว่า แม้ว่าผลงานในประเทศหลายเรื่องจะปรากฏสู่สายตาผู้ชมทั่วโลก แต่เรายังมุ่งสร้างผลงานจากท้องถิ่นสู่ท้องถิ่นและให้คนในประเทศได้รับชมกัน

ผู้สร้างแอนนา แมคลีช (ขวา) พูดคุยกับเจฟฟ์ แมคไบรด์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารของ Netflix เรื่องการสอดแทรกเอกลักษณ์อันโดดเด่นของประเทศอย่างเช่นศัพท์สแลงของออสเตรเลีย ไว้ในภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นในประเทศดังกล่าว

ทั้งนี้ เรื่องราวดีๆ มักจะมีธีมเรื่องที่เป็นสากลซึ่งทุกคนเข้าใจได้ เช่น ความรักหรือความเหลื่อมล้ำทางสังคม “ในเรื่อง Hunger คนหิว เกมกระหาย ผมใช้อาหารเป็นสื่อสะท้อนความปรารถนาและความทะเยอทะยานของมนุษย์ ผมทำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาเพื่อทุกคนเพราะเราล้วนเผชิญปัญหาคล้ายๆ กัน เพียงแต่เรื่องนี้มีนักแสดงไทยเป็นผู้ถ่ายทอดเท่านั้นเอง” สิทธิศิริ มงคลศิริ ผู้กำกับไทยกล่าวในงาน

ทั้งนี้กระแสนิยมภาพยนตร์จากเอเชียแปซิฟิกอาจเป็นผลพวงมาจากความชอบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เมื่อภาษาไม่ได้เป็นอุปสรรคมากเหมือนเมื่อก่อน โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ “ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศไม่ได้มีภาพของความเป็นหนังอาร์ตเฮาส์อีกต่อไป” แอนนา แมคลีช ผู้สร้างภาพยนตร์สยองขวัญจากออสเตรเลียเรื่องใหม่อย่าง Run Rabbit Run กล่าว “ตราบใดที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นดีจริง ผู้คนก็จะเลือกชมอย่างแน่นอน”

อิสระในการบอกเล่าเรื่องราวสู่ผู้คนทั่วโลกได้ตามต้องการ

ในระหว่างการจัดงานตลอด 3 ชั่วโมงนี้ ผู้สร้างทุกคนได้พูดถึงอิสระในการสร้างสรรค์งาน และการสนับสนุนของ Netflix ที่ช่วยในการนำวิสัยทัศน์ด้านการสร้างสรรค์ออกมาโลดแล่นบนหน้าจอ รวมถึงภาพยนตร์ที่แตกต่างไปจากผลงานฟอร์มยักษ์ตามกระแสหลัก อาทิ Hunger, เรื่องรัก เรื่องใคร่ (Lust Stories) และ The Big 4 ซึ่งติดอันดับผลงานภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศของ Netflix ที่มียอดการรับชมสูงสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

“บางครั้งผู้สร้างก็มีข้อจำกัดด้านองค์ประกอบแวดล้อม เราต้องการทลายข้อจำกัดนี้ เพื่อให้ผู้สร้างได้ปลดปล่อยจินตนาการอย่างเต็มที่” ชินอิจิ ทาคาฮาชิ ผู้จัดการฝ่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ของ Netflix ในญี่ปุ่นกล่าว

นอกจากนั้น Netflix ยังร่วมงานกับผู้สร้างอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างสรรค์ภาพยนตร์ออกมาให้ดีที่สุด งบประมาณครึ่งหนึ่งของภาพยนตร์ไซไฟจากเกาหลีเรื่อง จอง_อี (Jung_E) ทุ่มไปกับเทคนิคพิเศษและเทคนิคการสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์

“เรื่องราวนี้โดนใจเราอย่างจัง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เรากล้าเสี่ยงลงทุนขนาดนี้” คิมกล่าว “แล้วเราก็ได้กระแสตอบรับเชิงบวกมากมายจากอุตสาหกรรมบันเทิงในเดิมพันสุดเสี่ยงของเราและการยกย่องวิสัยทัศน์ด้านการสร้างสรรค์นี้”

ชินอิจิ ทาคาฮาชิ (ซ้าย) ผู้จัดการฝ่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ของ Netflix ญี่ปุ่น และวินเซนต์ คิมแทวอน ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์จาก Netflix เกาหลี ได้ย้ำความมุ่งมั่นของ Netflix ที่จะสร้างภาพยนตร์น่าชมหลากหลายเรื่อง

ผู้สร้างเริ่มเล็งเห็นข้อดีในการเผยแพร่ภาพยนตร์ของตัวเองสู่สายตาผู้ชมผ่านบริการสตรีมมิงทั่วภูมิภาคนี้ Run Rabbit Run ซึ่งได้ไปออกฉายในเทศกาลซันแดนซ์เมื่อเดือนมกราคมมีกำหนดจะเปิดฉายทาง Netflix ในปีนี้

“เราสร้างภาพยนตร์ออกมาให้คนดู และ Netflix ก็สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมเป็นวงกว้างทั่วโลก ปกติแล้วอาจใช้เวลานานถึง 18 เดือนกว่าภาพยนตร์อิสระสักเรื่องจะได้ปรากฏสู่สายตาคนทั่วโลกผ่านงานเทศกาลภาพยนตร์ แต่ถ้าเป็น Netflix เราสามารถเผยแพร่ภาพยนตร์สู่สายตาผู้ชมในกว่า 190 ประเทศได้แทบจะพร้อมกันเลยทีเดียว” แอนนากล่าวในงานนี้

ทิโม จาจันโต ผู้กำกับเรื่อง The Big 4 กล่าวเสริมว่า “เมื่อก่อนเวลาฉายภาพยนตร์ตามโรงภาพยนตร์ในต่างประเทศ เราจะไม่ค่อยเห็นภาพว่าผลงานนั้นสำเร็จมากน้อยแค่ไหน แต่พอมาฉายทาง Netflix เราจะเห็นผลตามเวลาจริงเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นได้รับกระแสตอบรับอย่างไรในแอฟริกาใต้ อาร์เจนตินา หรือไทย”

การสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในท้องถิ่น

สิทธิศิริเล่าว่าตอนแรกเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าการที่ Netflix เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยนั้นจะเป็นการทำลายหรือสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์กันแน่

เขาอธิบายต่อว่า “ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นแล้วว่า Netflix มีส่วนช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้อย่างแท้จริง ด้วยแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมในกระบวนการผลิต เพื่อให้เรามีเวลาและงบประมาณเพียงพอในการผลิตภาพยนตร์คุณภาพสูงออกมา”

ผู้สร้างรอนนี่ สกรูวาลา (ขวา) พูดคุยกับรุจิกา กาปูร์ เชคห์ ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์จาก Netflix อินเดีย ถึงเส้นทางการร่วมงานมากมายกับ Netflix

รอนนี่ สกรูวาลา ผู้สร้างผลงาน 6 เรื่องร่วมกับ Netflix อาทิ ผลงานดีกรีรางวัลอย่าง Lust Stories และ ปฏิบัติการเลือดเดือด (Mission Majnu) กล่าวว่า Netflix ได้ขยายตลาดการบอกเล่าเรื่องราวและการเขียนบท เขาอธิบายว่าสมัยก่อนภาพยนตร์จะมาจากผู้กำกับที่ทำงานร่วมกับผู้เขียนบทเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวออกมา แต่ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่มีเรื่องราวดีๆ รวมถึงผลงานดัดแปลงจากหนังสือก็สามารถนำมาบอกเล่าได้ทั้งนั้น

ในท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เล็งเห็นว่า Netflix มีบทบาทสำคัญในการรักษาเรื่องราวให้คงอยู่ตลอดไป

“เราพร้อมจะบอกเล่าเรื่องราวที่ยังคงโดนใจในอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า แทนที่จะนำภาพยนตร์ไปเก็บเข้าหิ้งในห้องสมุดหรือแคตตาล็อก ข้อดีของมันก็คือตอนนี้ทุกคนเข้าถึงและรับชมได้โดยถาวร”



ที่มา: Netflix

Leave a Comment