ปลัดมหาดไทย ประชุมคณะกรรมการอำนวยการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่ อบจ. มุ่งหวังยกระดับ รพ.สต. ในสังกัด อปท.


07/04/2566

พิมพ์

 


ปลัดมหาดไทย ประชุมคณะกรรมการอำนวยการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่ อบจ. มุ่งหวังยกระดับ รพ.สต. ในสังกัด อปท.

ปลัดมหาดไทย ประชุมคณะกรรมการอำนวยการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด มุ่งหวังยกระดับ รพ.สต. ในสังกัด อปท. สู่ศูนย์การบริการสุขภาพของประชาชนในทุกมิติอย่างยั่งยืน

วันนี้ (7 เม.ย. 66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเอกวิทย์ มีเพียร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายวิฑูร เอี่ยมโอภาส ผู้ตรวจราชการสานักนายกรัฐมนตรี นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นายสารสิน ศิริถาพร ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงจิรพร เหล่าธรรมทัศน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภารณ์ นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย รศ.ดร.อัชกรณ์ วงศ์ปรีดี สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ รศ.ดร.ธัชเฉลิม สุทธิพงษ์ประชา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายเสรี เพ็งสาท ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายศุภสัณห์ หนูสวัสดิ์ รองเลขาธิการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย นายณัฐพล ทองไหล กรรมการบริหารสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย รศ.ดร.สุจิตรา เหลืองอมรเลิศ นายกสภาการพยาบาล ผู้แทนหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แพทยสภา สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้ เป็นการประชุมคณะกรรมการอำนวยการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งได้มีการหารือภารกิจเกี่ยวกับการถ่ายโอน รพ.สต. เพื่อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่จะทำให้การถ่ายโอนหน้าที่ในการดูแลด้านสาธารณสุข ทั้งด้านการป้องกัน การให้การรักษาผู้ป่วยเบื้องต้นก่อนที่จะนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ และโรงเรียนแพทย์ เพื่อการให้บริการพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ

การประชุมในวันนี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ การทำให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถสนับสนุนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้มีการดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถให้บริการได้ตอบสนองต่อพี่น้องประชาชนได้ดียิ่งขึ้น โดยทางกระทรวงมหาดไทยจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อทำหน้าที่เป็นส่วนกลางให้การสนับสนุนแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการถ่ายโอนบุคลากรในสังกัด และการถ่ายโอนงบประมาณ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ทำการประเมินและรวบรวมปัญหาและอุปสรรคการถ่ายโอน รพ.สต. จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้คณะกรรมการฯ ที่มาในวันนี้ได้รับทราบและร่วมกันหารือ เพื่อแก้ไขต่อไป ดังนั้น คณะกรรมการอำนวยการฯ ชุดนี้ จึงมีความสำคัญในการได้ใช้โอกาสร่วมกันนำเสนอแนวทางที่จะช่วยสนับสนุน เพื่อทำให้การบริการประชาชนของ รพ.สต. มีคุณภาพการบริการดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เป็นทีมสนับสนุนให้เกิดการ Change for Good การทำสิ่งที่ดี ทำให้ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสังคมบ้านเมืองที่ดีอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องของบุคลากรที่ไม่ประสงค์จะโอนสังกัดมาสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและต้องกำหนดให้ชัดเจน เนื่องจาก รพ.สต. ได้ถ่ายโอนมาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว แต่บุคลากรที่ไม่ประสงค์โอนสังกัดยังคงมีอัตราอยู่ แต่อำนาจหน้าที่และงานของบุคลากรไม่มีแล้ว จึงต้องทำให้อัตราบุคลากรเป็นอัตราเฉพาะ นอกจากนี้ในเรื่องวินัยด้านการเงินการคลังที่กำหนดระบุชัดเจนว่า หน่วยงานต้องมีงบประมาณในด้านบุคลากรภาครัฐไม่เกิน 35% จึงเป็นอุปสรรคในการจัดจ้างบุคลากรมาทดแทน เนื่องจากมีอำนาจหน้าที่ มีงานมา แต่บุคลากรและงบประมาณไม่มา ก็ต้องมีการจ้างคนเพิ่ม ดังนั้น เราต้องกำหนดรายรับเรื่องค่าใช้จ่ายบุคลากรภาครัฐให้เพียงพอ โดยทำให้รายรับและรายจ่ายสมดุลกัน ในส่วนที่ยังพบปัญหา ก็ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขและปรับปรุง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ต้องส่งเสริมให้ รพ.สต. เป็นพื้นที่กลางในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร การส่งเสริมให้มีสวนสมุนไพรประจำ รพ.สต. ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยผลักดันขับเคลื่อนอยู่แล้ว แต่ยิ่งกว่านั้น คือการทำให้เกิดขึ้นในทุกครัวเรือน เช่น “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และการส่งเสริมให้ใช้พื้นที่สาธารณะอุดมสมบูรณ์ทางอาหาร “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมไปถึงการจัดทำ“ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” มีพื้นที่ตัวอย่าง เช่นที่ อบต.โก่งธนู จ.ลพบุรี ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับเกียรติจากคุณอาร์มิดา ซัลเซีย อาลีเชียบานา รองเลขาธิการองค์การสหประชาชาติและเลขาธิการบริหารคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) และคณะผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ (UN) มาเยี่ยมชมตัวอย่างความสำเร็จ ที่เป็นความท้าทายของพวกเราในการช่วยกันขยายผลไปยังทุกครัวเรือนต่อไป เพื่อพัฒนาไปสู่ครอบครัวพี่น้องประชาชนในเชิงคุณภาพ ดังที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อความเท่าเทียม และการพัฒนาที่ยั่งยืน” อันเป็นความมุ่งมั่น (Commitment) ที่พวกเราต้องการให้เกิดการ Change for Good ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้ง 65 ล้านคน

ขอขอบคุณคณะกรรมการฯ ทุกท่านที่มาร่วมประชุม และจะต้องมีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง จนกว่าภารกิจการถ่ายโอน รพ.สต. มาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเกิดการบริการที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าเดิมนั้นจะดีอยู่แล้ว แต่เมื่อ รพ.สต. มาอยู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เราต้องทำให้ดีกว่าเดิม บุคลากรที่มาอยู่ต้องมีความสุข เพื่อทำให้ประชาชนทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีความสุข ประเทศชาติมั่นคง ซึ่งคณะกรรมการอำนวยการฯ ชุดนี้ จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและข้อเสนอแนะของทุกท่าน นำไปเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ คือ คณะกรรมการการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) ที่มีท่านวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พวกเราจึงเป็นทีมงานสำคัญที่ทำให้เรามีข้อมูลที่เปรียบเสมือนอาวุธเข้าไปพูดคุยหารือกับคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อเสนอแนะให้เกิดนโยบายที่สนองตอบประชาชนในพื้นที่ได้ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์หลัก คือการสนับสนุนด้านการบริการสาธารณสุขปฐมภูมิ ให้ดีที่สุดให้ได้ เพื่อยกระดับ รพ.สต. สู่ศูนย์การบริการสุขภาพของประชาชนในทุกมิติอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ด้าน รศ.ดร.อัชกรณ์ วงศ์ปรีดี สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ และ รศ.ดร.ธัชเฉลิม สุทธิพงษ์ประชา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากการศึกษาตัวแบบระบบสุขภาพปฐมภูมิในสังกัด อบจ. ที่พึงประสงค์ โดยได้ยกตัวอย่างต้นแบบการดำเนินการในพื้นที่ อบจ.สุพรรณบุรี และ อบจ.ปราจีนบุรี ในเรื่องการทดลองนำร่อง “หน่วยบริหารระบบสุขภาพปฐมภูมิของ อบจ.” และตัวแบบ “ศูนย์สุขภาวะชุมชนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การขับเคลื่อนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ควรมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเร่งด่วน (Quick Win) 4 ประเด็น ดังนี้ 1) ทบทวนระเบียบและข้อบังคับขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและจูงใจในด้านต่าง ๆ ของบุคลากรทางการแพทย์ที่ถ่ายโอนมา 2) ทบทวนโครงสร้างส่วนราชการภายในองค์การบริหารส่วนจังหวัดให้สามารถรองรับภารกิจที่เพิ่มมากขึ้นและปรับตัวอย่างยืดหยุ่นตอบสนองการให้บริการแก่พี่น้องประชาชน 3) เตรียมความพร้อมองค์การบริหารส่วนจังหวัดในการดูแลระบบสุขภาพปฐมภูมิแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อรองรับการดูแลระบบสุขภาพในขั้น ทุติยภูมิต่อไป และ 4) ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดในการคิดค้นและขับเคลื่อนงานด้านคุณภาพชีวิตและการสร้างเครือข่ายสถานีสุขภาพเพื่อให้สร้างเครือข่ายในการดูแลสุขภาพคนในชุมชน รวมถึงการขยายผลการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารในระดับชุมชน

นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีความใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นท้องที่ ซึ่งหลังจากที่ รพ.สต. ถ่ายโอนมาแล้วกว่า 80% ทำให้เราได้รับความร่วมมือเพิ่มมากยิ่งขึ้นจากทุกภาคีเครือข่ายในพื้นที่ (Partnership) ส่งผลต่อการบริการพี่น้องประชาชน แม้ว่าเรื่องบุคลากรจะมีปัญหาอุปสรรค เนื่องจากว่าในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย เราต้องการยกระดับการบริการ รพ.สต. ให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยมีพื้นที่ต้นแบบในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเรามีแผนจะพัฒนาการบริการหมอตู้ออนไลน์ สามารถบริการพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชม. โดยให้ประชาชนสามารถพบหมอออนไลน์ (Tele Medicine) และเมื่อหมอสามารถสั่งจ่ายยาผ่านตู้ได้ ช่วยประหยัดค่าจัดจ้างบุคลากร ประหยัดเวลา และตอบสนองประชาชนได้ตลอดเวลานอกจากนี้ ยังมีนโยบายอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การยกระดับ รพ.สต. เป็นศูนย์การบริการสุขภาพประชาชน ที่ดูแลเรื่องการส่งเสริมอาชีพ โดยให้ อสม. ในพื้นที่ที่มีความชำนาญในแต่ละด้าน ให้การส่งเสริมทักษะเพื่อต่อยอดสู่การจัดจ้างให้ประกอบอาชีพ พร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพการปลูกพืชสมุนไพร โดยการรับซื้อพืชสมุนไพรจากพี่น้องประชาชน การปลูกพืชผักสวนครัว โดยให้ รพ.สต. เปิดร้านค้า และนำสินค้าชุมชนจากประชาชามาวางขาย ส่งเสริมอาชีพ ให้ประชาชนมีรายได้มีอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

 

แหล่งที่มา: ข่าวกระทรวงด้านความมั่นคง

Leave a Comment