Netflix พาคอนเทนต์เกาหลีก้าวไปอีกขั้นด้วยผลงานที่เตรียมเข็นลงจอในปี 2023 – ตัก

แฟนคอนเทนต์เกาหลีทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสมาชิก Netflix กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ที่ติดตามชมเนื้อหาจากเกาหลีเมื่อปีที่ผ่านมา สำหรับปี 2023 Netflix เตรียมเปิดตัวซีรีส์ ภาพยนตร์ และรายการเรียลลิตี้เกาหลีหลากหลายแนว วันนี้เราขอนำเสนอคลังผลงานภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหนๆ โดยมีเนื้อหาที่เตรียมออกฉายถึง 34 เรื่อง ทั้งที่เป็นผลงานใหม่ชวนตื่นตาตื่นใจ และผลงานโปรดของแฟนๆ ที่จะหวนคืนจออีกครั้ง

ซีรีส์ใหม่และเรื่องโปรดที่เตรียมหวนคืนจอ

การเอาชีวิตรอดเป็นธีมที่เราเห็นอยู่บ่อยครั้งในซีรีส์ดังๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในยุคมืดมนของปี 1945 ใน สัตว์สยองกยองซอง (Gyeongseong Creature)\*\*\*\* การแย่งอากาศกันหายใจในโลกอนาคตอันเสื่อมทรามในซีรีส์แนวไซไฟเรื่อง Black Knight หรือการต่อสู้เพื่อปกป้องโชซอนในยุคที่อยู่ใต้อาณานิคมของญี่ปุ่นในผลงานแอ็คชั่นดราม่าเรื่อง ลำนำคนโฉด (Song of the Bandits)

ปีนี้แฟนๆ จะได้รื่นรมย์สมใจกับการกลับมาของซีรีส์ที่ตั้งตารออย่าง สวีทโฮม (Sweet Home), D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ และ The Glory โดยภาค 2 ของซีรีส์แนวล้างแค้นเรื่อง The Glory จะเปิดฉายในเดือนมีนาคม ขณะที่ภาค 1 ขึ้นแท่นซีรีส์ภาษาต่างประเทศที่มีผู้ชมสูงสุดประจำสัปดาห์วันที่ 2 มกราคม ด้วยยอดการรับชม 82.48 ล้านชั่วโมง Sweet Home ซึ่งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผลงานแนวสัตว์ประหลาดในเกาหลีจะหวนคืนจอพร้อมเรื่องราวและโลกที่ขยายออกไป ส่วน D.P. จะกลับมาพร้อมทีมนักแสดงจากซีซั่น 1 เพื่อเดินหน้าล่าทหารหนีทัพกันต่อ

“กระแสความนิยมคอนเทนต์เกาหลีจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2022 เมื่อ Netflix นำเสนอผลงานหลากแนวหลายเรื่องราวสู่สายตาแฟนๆ ทั่วโลก ตลอดปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีมักจะติดชาร์ตผลงาน 10 อันดับสูงสุดในกว่า 90 ประเทศ และผลงาน Netflix ที่มียอดการรับชมสูงสุดก็เป็นเนื้อหาเกาหลีถึง 3 เรื่อง ในปีนี้เราจะจัดเต็มยิ่งกว่าเดิมทั้งในแง่ของเรื่องราวที่เราบอกเล่าและวิธีการเล่าเรื่องราวเหล่านั้น คลังผลงานจากเกาหลีนี้เป็นเครื่องตอกย้ำว่า Netflix จะยังคงเป็นหมุดหมายสำคัญในการบอกเล่าเรื่องราวจากเกาหลีที่หลากหลาย ชวนติดตาม และห้ามพลาดชม” ดนคัง รองประธานฝ่ายเนื้อหา (เกาหลี) กล่าว

ซีรีส์ใหม่ๆ ในปีนี้จะมีทั้งผลงานรักโรแมนติก (เวลาเพรียกหาเธอ (A Time Called You), Behind Your Touch (ยังไม่ได้สรุปชื่อเรื่อง), โรแมนซ์ฉบับเร่งรัด (Crash Course in Romance), Destined With You, ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน (Doona!), King the Land, ยี้ให้หนัก รักให้เข็ด (Love to Hate You) และ See You In My 19th Life) ผลงานแนววิพากษ์สังคมและแผนการร้าย (Bloodhounds, Celebrity: คนเด่น คนดัง คนดับ และ Mask Girl) ผลงานดราม่า (รับแดดอุ่น กรุ่นไอรัก (Daily Dose of Sunshine), Queenmaker: ฉันจะปั้นราชินี และ The Good Bad Mother) และผลงานแนวโลกาวินาศ (Goodbye Earth: ถึงเวลาต้องลาโลก)

ภาพยนตร์และรายการเรียลลิตี้ใหม่อีกมากมายให้เลือกสรร

ตลอดปีที่ผ่านมาผู้ชมทั่วโลกต่างนิยมชมชอบภาพยนตร์และรายการเรียลลิตี้จากเกาหลีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผลงานแอ็คชั่นระทึกขวัญเรื่อง คาร์เตอร์ (Carter) ติดอันดับ 1 ใน 10 ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศที่มียอดการรับชมสูงสุดเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่รายการเรียลลิตี้หาคู่อย่าง “Single’s Inferno: โอน้อยออก ใครโสดตกนรก” ก็ติด 10 อันดับสูงสุดในหมวดผลงานภาษาต่างประเทศทั่วโลก

ปีนี้ Netflix จะขยายคลังผลงานภาพยนตร์เกาหลีเพิ่มอีก 6 เรื่อง โดยเปิดตัวด้วยภาพยนตร์ไซไฟระทึกขวัญเรื่อง จอง\_อี (JUNG\_E) ในวันที่ 20 มกราคม ตามมาด้วยเรื่อง คิลบกซุน (Kill Boksoon) ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักฆ่ามืออาชีพที่รู้สึกขัดแย้งกับสัญชาตญาณความเป็นแม่ในตัว และ Believer 2 ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญแนวอาชญากรรมเกี่ยวกับแก๊งค้ายา ส่วนภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ จะแตะประเด็นการล้างแค้น (Ballerina: ร่ายระบำฆ่า)) การประชันฝีมือระหว่างลูกศิษย์และอาจารย์ (เดอะ แมทช์ (The Match)) และการแฮ็กข้อมูล (แค่ทำโทรศัพท์มือถือหาย ทำไมต้องกลายเป็นศพ (Unlocked))

สำหรับผู้ที่อยากจะสัมผัสประสบการณ์ผ่านชีวิตของคนอื่นอาจเลือกไม่ถูกว่าจะติดตามรายการเรียลลิตี้ที่น่าตื่นตาตื่นใจรายการไหนดี ทั้งการทดสอบความแข็งแกร่ง (ร้อยแกร่งแข่งอึด (Physical:100) และ Siren: Survive the Island) การหนีตายจากซอมบี้ (Zombieverse) การก้าวพ้นวัย (Nineteen to Twenty) และเกมจิตวิทยา (The Devil’s Plan)

นอกจากนั้นยังมีสารคดีใหม่ที่เตรียมเปิดฉายอีก 2 เรื่อง Yellow Door: Looking for Director Bong’s Unreleased Short Film (ยังไม่ได้สรุปชื่อเรื่อง) จะแกะรอยตามหาภาพยนตร์เรื่องแรกของบงจุนโฮ ผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์ ส่วนสารคดีที่สร้างจากอาชญากรรมจริงเรื่อง In the Name of God: ศรัทธาลวง (In the Name of God: A Holy Betrayal) จะพาไปสำรวจเรื่องราวของผู้ที่อ้างตนว่าเป็น “พระเมสสิยาห์” ในประวัติศาสตร์เกาหลียุคปัจจุบัน

ดนคังกล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอผลงานที่หลากหลายสู่สายตาสมาชิก เรามีซีรีส์ ภาพยนตร์ และรายการเรียลลิตี้สำหรับทุกคน แล้วเราก็หวังว่าผลงานจากเกาหลีของเราจะโดนใจแฟนๆ ทั้งในและต่างประเทศ”

ดูรายละเอียดผลงานแต่ละเรื่องเพิ่มเติมได้ในภาคผนวก



ที่มา: Netflix

Leave a Comment