เจเนอเรชัน Z หรือคนเจน Z ซึ่งเกิดในช่วงระหว่างปี 1997-2012 ได้รับการจับตามองอย่างมากจากไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากคนรุ่นเก่า โดยเจน Z ที่อายุมากที่สุดตอนนี้กำลังจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่และกำลังแรงงานสำคัญในอนาคต แต่หลายคนในรุ่นนี้มองว่า การเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบเดิม ๆ อย่างการมีงานทำที่มั่นคงและมีบ้านเป็นของตนเองนั้นอาจไม่ใช่แนวทางของพวกเขาเลย
อิสซาเบลล์ ลิบลีน วัย 23 ปี ซึ่งเป็นคนเจน Z หรือ Zoomer รุ่นแรก เปิดเผยเรื่องราวของเธอบน TikTok เกี่ยวกับการตัดสินใจระหว่างที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยเมื่อปี 2021 เทเงินเก็บที่มีทั้งหมดและออกไปใช้ชีวิตท่องเที่ยวไปใน 19 ประเทศยุโรป ซึ่งมีผู้ติดตามเธอบนแพลตฟอร์มดังกล่าวหลายพันคน และเธอสนับสนุนให้ทุกคนทำตามเส้นทางนี้เหมือนกัน โดยเธอกล่าวว่า “เดี๋ยวก็หาเงินใหม่ได้ แต่เราไม่อาจกลับมาเที่ยวตอนอายุ 20 ได้อีกแล้ว”
ลิบลีน ที่จบปริญญามาหมาด ๆ และทำงานเป็นวิศวกรไอที บอกกับวีโอเอว่า เธอให้ความสำคัญหลักไปกับการท่องเที่ยวไม่ใช่การเติบโตในอาชีพ
ลิบลีน บอกว่า “การท่องเที่ยว ได้สัมผัส 19 ประเทศที่แตกต่างในยุโรป เปลี่ยนมุมมองของฉันไป ฉันตั้งใจว่าจะเลือกทำงานที่ได้ออกไปทำงานทุกวัน วันละหลายชั่วโมง แต่ฉันตัดสินใจที่จะเปลี่ยนความคิดนั้น และลาออกไปทำงานที่มีสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต และหวังว่าจะเป็นงานทำทางไกลได้ด้วย”
ส่วนรุ่นเจน Z อีกคน คาเมรอน เวด นักศึกษาสาขาภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัย Michigan University วัย 21 ปี หวังว่าจะรวมการท่องเที่ยวและทำงานไปด้วยกัน และเชื่อว่าอินเตอร์เน็ตจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานและทำธุรกิจในอนาคต
เวด บอกว่า “อินเตอร์เน็ตมีบทบาทใหญ่ต่อคนรุ่นเราอย่างมาก เหมือนว่าเรามีทางในการเข้าถึงผู้คนกว้างขวางขึ้นได้จากที่บ้านของเราเอง”
เหล่า Zoomer ต่างแสดงมุมมองถึงการใส่ใจดูแลตัวเองและสิ่งที่สำคัญกับชีวิตของพวกเขาเป็นสำคัญ ซึ่งแตกต่างจากคนรุ่นก่อน ๆ
ลิบลีน บอกว่า “พ่อแม่ของฉันให้ความเห็นกับงานแรกที่ฉันทำและเกลียดมันเอามาก ๆ ว่าให้ทนทำไปก่อน และไต่เต้าขึ้นไป บางทีอีกสามปีลูกจะได้สิ่งที่ต้องการนะ! แต่คนรุ่นเราไม่ต้องการมาเสียเวลา เราไม่รู้สึกภักดีกับองค์กรใดองค์กรหนึ่งที่ไม่รองรับความต้องการของเรา”
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยพิว พบว่า เหล่า Zoomer เป็นกลุ่มคนที่มีการศึกษามากที่สุด โดยเข้าเรียนมหาวิทยาลัยราว 57% เมื่อเทียบกับคนมิลเลเนียล 52% และคนเจน X 43% ที่เลือกจะร่ำเรียนระดับอุดมศึกษา
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายปรากฎการณ์ดังกล่าวว่า คนรุ่นใหม่ต้องการประสบการณ์การทำงานที่ไม่เหมือนแบบดั้งเดิม แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน และว่าประสบการณ์ในช่วงวัยหนุ่มสาวจะช่วยเติมเต็มชีวิตของพวกเขาในระยะยาวได้
แคสซี โฮล์มส นักสังคมวิทยา จาก UCLA Anderson School of Management เปิดเผยกับวีโอเอว่า “การวิจัยพบว่าคนกลุ่มนี้ลงทุนไปกับประสบการณ์ที่มอบความสุขให้มากกว่าทุ่มเงินไปกับสิ่งของราคาแพง และยังพบว่าสิ่งนี้ไม่เพียงแต่ให้ผลในระยะสั้น แต่การซื้อประสบการณ์จะให้ผลด้านความสุขที่มากกว่าและยังให้ผลดียาวนานกว่า
ทั้งนี้ กลุ่มเจน Z จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังแรงงานมากกว่า 25% ในตลาดแรงงานอเมริกัน ภายในปี 2025
- ที่มา: วีโอเอ