ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-ภาคีเครือข่าย ลุยต่อเนื่องทุกพื้นที่ ด้าน จ.กาฬสินธุ์ เริ่มแล้ว จัดตั้งศูนย์คัดกรองและศูนย์ฟื้นฟูฯ แก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน



พิมพ์

 


ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-ภาคีเครือข่าย ลุยต่อเนื่องทุกพื้นที่ ด้าน จ.กาฬสินธุ์ เริ่มแล้ว จัดตั้งศูนย์คัดกรองและศูนย์ฟื้นฟูฯ แก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน

ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-ภาคีเครือข่าย ลุยต่อเนื่องทุกพื้นที่ ด้าน จ.กาฬสินธุ์ เริ่มแล้ว จัดตั้งศูนย์คัดกรองและศูนย์ฟื้นฟูฯ แก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 65 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงการดำเนินงานปฏิบัติการด้านป้องกัน ปราบปราบ และแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้เป็น “วาระแห่งชาติ” และนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการ “ทำสงครามกับยาเสพติด” โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เป็นแม่ทัพคนสำคัญในระดับพื้นที่ ร่วมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพราะปัญหายาเสพติดเป็นความทุกข์ร้อนของประชาชน เป็นไฟที่มอดไหม้ประเทศชาติ จึงไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่งที่จะแก้ปัญหานี้ “ทุกหน่วย ทุกคน ทุกเวลา ทุกที่ ทุกโอกาส” เป็นสิ่งที่ต้องจัดการกับยาเสพติด ซึ่งในวันนี้ ได้รับรายงานจากพื้นที่ต่าง ๆ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในมิติต่าง ๆ ได้แก่

1) ที่จังหวัดแพร่ นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ นำสมาชิกกองร้อย อส.อ.เมืองแพร่ ที่ 1 บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณที่ทำการสายตรวจประจำตำบล บ้านปากห้วย ม.6 ต.วังธง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ซึ่งสามารถสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายประชาชน พบผลเป็นบวก จำนวน 5 ราย และสามารถตรวจค้นพบของกลางยาบ้า จำนวน 60 เม็ด จึงนำตัวผู้กระทำผิดพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.วังหงส์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

2) ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่จัดระเบียบสังคม ณ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ 6 แห่ง ในพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ คือ ร้านฅืนรัง ร้านมาดามดาว ปิ้งย่าง ร้าน 239 Basic ร้านโฮชิ ร้าน safe zone และร้านประจวบเมาะ โดยเข้มงวดเรื่องการกำหนดเวลาเปิด-ปิด อายุผู้บริการและผู้ใช้บริการ การพกพาอาวุธปืนและการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด

3) ที่จังหวัดสกลนคร นายบรรลือ สัมฤทธิ์จินตนา นายอำเภอพังโคน พร้อมด้วยนายสุชาติ รังสินารา ปลัดอาวุโส นายเสถียร ถวายชัย ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายสำเริง สีกาแก้ว ปลัดอำเภอ พร้อมสมาชิก อส. อ.พังโคนที่ 11 ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลแร่ อำเภอพังโคน ร่วมตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด เพื่อป้องกันยาเสพติดในเส้นทางเข้าบ้านหนองไฮใหญ่ หมู่ที่ 3/บ้านหนองไฮน้อย หมู่ที่ 7 ตำบลแร่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ตามโครงการ “ปฏิบัติการสกลนคร 90 วัน ปราบปรามผู้ค้า ค้นหาผู้ติด เป็นมิตรกับชุมชน” เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมายตามโครงการฯ โดยได้ตรวจพบผู้เสพจำนวน 4 ราย และจัดทำประวัติส่งเข้าบำบัดรักษาตามกฎหมายต่อไป

4) ที่จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีรถตู้ป้ายเหลืองต้องสงสัย คนขับรถท่าทางมีพิรุธ จึงได้ทำการตรวจสอบและสามารถจับกุมตัว นายชลอ อายุ 38 ปี คนขับรถตู้ป้ายเหลืองรับ-ส่งนักท่องเที่ยว พร้อมของกลางยาบ้า ลักษณะกลมแบน สีส้ม ปั๊มอักษร WY บรรจุอยู่ในหลอดพลาสติก สีส้ม ปิดหัวท้าย จำนวน 9 เม็ด อาวุธปืนยาว ยี่ห้อ GAMO ขนาดเบอร์ 2 จำนวน 1 กระบอก ลูกปืนหัวตะกั่ว เบอร์ 2 จำนวน 10 นัด ตลับบรรจุหัวกระสุน 1 อัน อาวุธมีดสั้น 1 เล่ม ขวาน 1 ด้าม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

5) ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาวง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีชายเร่ร่อนเสพยาบ้ากลางชุมชน จึงติดตามและสามารถจับกุมตัวชายดังกล่าว คือ นายถาทองดี อายุ 27 ปี ได้ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยสายนาเวียง ซึ่งนายถาทองดีมีเป็นคนลักษณะมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง และเร่ร่อนไปมา และได้นำตัวไปตรวจหาสารเสพติด พบปัสสาวะสีม่วง จึงได้ควบคุมตัวสอบปากคำและดำเนินการตามกฎหมาย

6) ที่จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง เข้าตรวจค้นชายต้องสงสัย หลังจากชาวบ้านที่มาทำบุญ และเที่ยวงานเทศกาลลอยกระทงที่วัดเนื่องจำนงค์ เกิดการแตกตื่น กระทั่งสามารถจับกุมตัวนายอานนท์ อายุ 30 ปี พบมีดที่ใช้ตัดหญ้าตัดไม้ 2 เล่ม และพบยาบ้าจำนวนหนึ่งในกระเป๋าสะพาย เจ้าตัวยอมรับสารภาพจึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ได้รับรายงานจาก นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เกี่ยวกับการดำเนินการจัดตั้งศูนย์คัดกรองเพื่อคัดกรองและประเมินความรุนแรงของการติดยาเสพติด และศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมสำหรับผู้ติดยาเสพติดหรือผู้ผ่านการบำบัดรักษาเกี่ยวกับยาเสพติด ขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองขาม อำเภอยางตลาด โดยใช้ที่ทำการ อบต.คลองขาม (หลังเก่า) เป็นศูนย์คัดกรองและศูนย์ฟื้นฟูสำหรับผู้ติดยาเสพติดหรือผู้ผ่านการบำบัดรักษา ซึ่งกำหนดแผนงานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตทางด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา อาชีพ และติดตามดูแลช่วยเหลือจนกลับมาดำรงชีวิตในสังคมอย่างปกติ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในตำบลอย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้กลไกพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และภาคีเครือข่ายในการร่วมกันแจ้งเบาะแส เพื่อเข้าถึงข้อมูลทั้งผู้เสพและผู้ขาย ซึ่งถือเป็นการจัดตั้งศูนย์ฯ ขึ้นเป็นแห่งแรกของจังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ จังหวัดกาฬสินธุ์ จะได้แต่งตั้งคณะทำงานติดตามประเมินผลการดำเนินงานของ อบต.คลองขาม ควบคู่กับการส่งเสริมให้ อปท. อื่น ๆ ได้ดำเนินการจัดตั้ง เพื่อประมวลผลและใช้เป็นแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาและสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้กับ อปท. ทุกแห่งในพื้นที่ต่อไป

กระทรวงมหาดไทย และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทุกพื้นที่ มุ่งมั่นในการทำสงครามกับยาเสพติดในทุกรูปแบบ รวมทั้งดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ ทั้งการบำบัดรักษา และการฟื้นฟูผู้ป่วยให้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกับสมาชิกในครอบครัว ชุมชน และสังคมต่อไป ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่ได้อยู่ที่เจ้าหน้าที่จะจับมากเพียงใด หรือตั้งศูนย์บำบัด ศูนย์ฟื้นฟู มากแห่ง แต่อยู่ที่ความร่วมมือของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ที่ช่วยกันเป็นตาสับปะรดในการสอดส่องดูแลกันและกันในชุมชน โดยหากพบเห็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือรู้ว่าพื้นที่เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติด หรือมีเสียงเอะอะโวยวายจากการเสพยาเสพติด ขอให้ได้ช่วยกันแจ้งที่นายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 เพื่อจะได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อทำให้สังคมไทย และทุกชุมชน/หมู่บ้าน เป็นสังคมแห่งความสุข เป็นบ้านเมืองที่ปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน

 

แหล่งที่มา: ข่าวกระทรวงด้านความมั่นคง

Leave a Comment