รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยร่วมมือ 15 หน่วยงาน เร่งวิจัยพืชกระท่อม หวังสร้างมาตรฐานกลางให้ทำผลิตภัณฑ์ได้ เพื่อเปลี่ยนใบไม้เป็นเงินสดอย่างยั่งยืน ชี้ชาวบ้านเคี้ยวมานานไม่เห็นมีใครเป็นอะไร เทียบเคียงกัญชามีปัญหามากกว่าเยอะ
วันที่ 16 กันยายน 2565 เวลา 13.00 น. ที่ห้างเซ็นทรัลโคราช จ.นครราชสีมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน“สร้างเศรษฐกิจ เปลี่ยนพืชกระท่อมเป็นเงินสด” โดยมีนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันที่ 24 ส.ค. 2565 เป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่พืชกระท่อมถูกปลดล็อก เราใช้เวลา 547 วัน หรือ 1 ปีครึ่ง ผลักดันจนสำเร็จ และเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2565 พ.ร.บ.พืชกระท่อม บังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการของเราคือการทำใบไม้ที่เป็นยาเสพติดมา 78 ปีให้เป็นเงินสดอย่างยั่งยืน สำหรับปัญหาของพืชกระท่อมหลังปลดล็อก มีการปลูกอย่างเสรีทำให้ราคาตกลงมา จากเมื่อก่อนกิโลกรัมละ 400-600 บาท คนที่อยู่ในพื้นที่นำร่องถือว่าโชคดีที่มีรายได้ แต่ปัจจุบันราคาขายปลีกเหลือ 200 บาท ขายส่ง 120-150 บาท ซึ่งในขณะนี้เราได้ประสานงานกับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานของรัฐในการวิจัย การปลูกและสร้างผลิตภัณฑ์
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสาระสำคัญ พ.ร.บ.พืชกระท่อม คือ การเพาะหรือปลูกได้เสรี ครอบครองและขายใบกระท่อมได้โดยตรง และออนไลน์ ไม่ต้องขออนุญาต แต่ห้ามขายให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตรห้ามบริโภคใบกระท่อมหรือน้ำต้มใบกระท่อมที่ปรุงหรือผสมกับยาเสพติด และการนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อม ต้องขอรับใบอนุญาตจากเลขาธิการ ป.ป.ส. ซึ่งเราไม่สนับสนุนการนำเข้าใบกระท่อมเพื่อให้คนไทยได้ประโยชน์ได้เต็มที่ ไม่ให้ต่างชาติ เข้ามาหาประโยชน์จากเรา จะเน้นไปที่การส่งออกเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ ซึ่งต่างประเทศ เช่น จีน สหรัฐอเมริกา มีความต้องการ โดยเฉพาะตัวที่เป็นสารสกัด
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกัญชา มาทีหลังกระท่อม ยังไม่มีกฎหมายรองรับ แต่มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขออกมาเพื่อป้องกันความเสียหายที่ตามมา โดยที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์จากกัญชา เช่น ชา อาหาร ขนม และการสูบ มีผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลไปแล้วหลายราย ซึ่งหมอและพยาบาลต่างคัดค้าน คดีที่เกิดจากการเสพกัญชามีเยอะมาก แต่กระท่อมไม่มี โดยผลิตภัณฑ์กระท่อม ถูกจัดอยู่ในหมวดอาหารใหม่ ต้องมีเอกสารขออนุญาตจำนวนมาก แต่กัญชากลับไม่ได้อยู่ในหมวดนี้ ซึ่งขณะนี้สภาฯได้ถอนร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ออกมาเพื่อพิจารณาใหม่ ดังนั้นธุรกิจและกัญชาอาจจะมีปัญหาบ้าง ดังนั้น รมว.สาธารณสุข คงต้องทำงานหนักมากขึ้นในการออกกฎหมายควบคุมกัญชา
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้ป.ป.ส.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการประสานงาน เร่งรัด และได้จัดประชุมร่วมกับ อย. ไปแล้ว เมื่อวันที่ 31 ส.ค.65 โดยป.ป.ส.กำลังศึกษาเรื่องความปลอดภัยหรือความเป็นพิษ สําหรับใช้ประกอบการขึ้นทะเบียน ผลิตภัณฑ์ โดยร่วมมือกับ 15 หน่วยงานในการศึกษาขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ให้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ และจะส่งผลไปยัง อย. ได้ภายในต้นเดือน ต.ค. หาก อย. เห็นชอบ ให้ผ่านการประเมิน ประเทศไทยจะมีค่ามาตรฐานกลางของพืชกระท่อมที่ใช้ในอาหาร ซึ่งเรากำลังต่อสู้ในเรื่องของมาตรฐานไมทราจีนีนในอาหาร ที่ อย.กำหนด 1 ขวด แค่ 0.2 มิลลิกรัมแต่ในใบที่ชาวบ้านเคี้ยวกันเป็นปกติมานานมีถึงใบละ 0.6-1 มิลลิกรัม ซึ่งบางคนเคี้ยววันละเป็น 10 ใบ
“ผมขอยืนยันว่าจะเดินหน้าปลดล็อกการสร้างผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมต่อไป เพื่อเป็นการสร้างตลาด สร้างมูลค่าพืชกระท่อม ให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ซึ่งเราเข้าตามตรอกออกตามประตู แม้ในช่วงนี้ จะเป็นช่วงปลายเทอมของรัฐบาล ซึ่งกำลังจะหมดวาระในช่วงต้นปีหน้า แต่ผมจะทำให้ดีที่สุด และขอฝากชาวโคราชร่วมแจ้งเบาะแสยาเสพติด ที่สายด่วน ป.ป.ส. 1386 เรามีรางวัลให้ 5% จากมูลค่าทรัพย์ที่ยึดได้ ซึ่งวันนี้เรายึดทรัพย์ได้หมื่นกว่าล้านบาทแล้วซึ่งปีหน้าจะยึดให้มากกว่านี้อีก โดยแม้จะเป็นพ่อค้ารายเล็ก แต่เราสามารถสืบสาวไปถึงรายใหญ่ได้ ซึ่งเรามีการป้องกันผู้แจ้งเป็นความลับอย่างดีและปลอดภัย ขอให้ทุกท่านมาช่วยกันสร้างความปลอดภัยให้กับลูกหลานของเรา”นายสมศักดิ์ กล่าว
จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้เดินชมบูธจากหน่วยงานและผู้ประกอบการต่างๆที่นำผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมมาจัดแสดง อาทิ สหกรณ์รัฐวิสาหกิจชุมชนแห่งประเทศไทย ที่มีทั้งเครื่องดื่ม ชาและอาหาร และรับชมการแสดงคอนเสิร์ตจาก ก้อง ห้วยไร่ และไหมไทย หัวใจศิลป์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ที่มา: ข่าวกระทรวง – ด้านกฎหมายฯ, ลิงค์