การเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่ปกครองฉนวนกาซ่า ยังคงไม่มีทางออกที่ชัดเจน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายประกาศปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2023 จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023
ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งได้รับการกล่าวคุยจากประเทศกาตาร์ ระบุว่า ฮามาสจะปล่อยตัวประกันอิสราเอลอย่างน้อย 40 คน ส่วนใหญ่เป็นสตรี ผู้สูงอายุและผู้ป่วย รวมทั้งเด็กอย่างน้อยสองคน ส่วนอิสราเอลจะปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 300 คน และอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์ที่ลี้ภัยอยู่สามารถกลับไปยังพื้นที่บางแห่งทางเหนือของกาซ่าได้
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ได้รับการคัดค้านจากทั้งสองฝ่าย โดยอิสราเอลยืนยันว่าจะไม่ปล่อยตัวทหารหญิงทุกคนที่ถูกจับตัวไปในข้อตกลงปล่อยตัวประกันชุดแรก และยังต้องการให้ฮามาสยุติการใช้จรวดโจมตีใส่ภาคใต้ของอิสราเอล ส่วนฮามาสยังคงไม่ยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้ และยังมีท่าทีปฏิเสธการปล่อยตัวทหารผู้ชายอิสราเอลที่ถือเป็นเบี้ยสำคัญในการต่อรอง
ประเด็นสำคัญคือ ข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดทางให้กองทัพอิสราเอลรุกเข้าไปในเมืองราฟาห์ทางใต้ของกาซ่าได้เมื่อการพักรบเสร็จสิ้นลง โดยเมืองนี้มีพรมแดนติดกับอียิปต์และมีผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่นับล้านคน แต่อิสราเอลเชื่อว่ามีนักรบของฮามาสจำนวนมากหลบซ่อนอยู่ในเมืองนั้นด้วย
เมื่อข้อตกลงหยุดยิงนี้มีผลบังคับใช้ในวันจันทร์หน้าจริง คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะเริ่มเจรจากันทันทีเรื่องการขยายระยะเวลาของการพักรบออกไป ซึ่งอาจรวมถึงการปล่อยตัวทหารหญิงอิสราเอลที่ฮามาสจับไว้แลกกับการปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์เพิ่ม ตามการปเิดเผยของเจ้าหน้าที่ชาวอียิปต์
และหลังจากปล่อยตัวประกันที่เป็นทหารหญิงแล้ว คาดว่าทางฮามาสอาจจะเริ่มต่อรองเรื่องการปล่อยตัวทหารผู้ชายซึ่งเชื่อว่ามีค่าหัวสูงกว่า
สหรัฐฯ หวังว่าการจัดทำข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับการสร้างสันติภาพระยะยาวในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ และการสนับสนุนให้รัฐบาลที่ชอบธรรมของปาเลสไตน์ปกครองฉนวนกาซ่าด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางอิสราเอลยังต้องการครอบครองกาซ่าอย่างสมบูรณ์ และได้ยืนกรานปฏิเสธข้อเสนอจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ตามที่ชาติมหาอำนาจต่าง ๆ ต้องการ